สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านเมืองแปง 

1. พระเจ้าแปงปาย

พระเจ้าแปงปายเป็นพระปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสนเป็นพระเก่าแก่สร้างเมื่อพุทธศตวรรษที่ 20มีลักษณะสวยงามมากเป็นสิ่งที่ชาวบ้านเมืองแปงเครพนับถือมาก เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของบ้านเมืองแปงเลยก็ว่าได้

2.ประวัติรอยพระพุทธบาทเมืองแปง

       รอยระพุทธบาทเมืองแปงนี้มีมาตั้งแต่สมัยพระบรมศาสดารพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้จาริกมายังสุวรรณภูมิได้ผ่านมายังบ้านเมืองแปง ในสมัยนั้น เรียกว่าบ้านทาผาน้อย ได้เสด็จมาพักยังเหนือก้อนหินก้อนหนึ่ง ซึ่งมีรอยประทับตราบทุกวันนี้ โดยชาวบ้านที่นี่เรียกว่า ห้วยพระนอน (รูปลักษณะเหมือนรูปคนนอนตะแคงเหนือก้อนหิน) พอรุ่งขึ้นก็เสด็จออกจากที่นี่ ได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้เหนอก้อนหินก้อนหนึ่งก่อนที่จะเสด็ขไปทางตะวันออกเฉียงใต้หรือทางตำบลยั้งเมินและบ้านอมลอง มีประวัติเล่ากันมาว่า พระพุทธองค์ทรงเสวยเมี้ยงที่ชาวบ้านนำมาถวาย จึงได้ชื่อหมู่บ้าน ส่วนบ้านพระพุทธองค์ทรงคายอมเมี้ยงที่อังคายก่อนที่จะทรงเสด็จผ่านเชียงใหม่ เช่น   พระพุทธบาทสี่รอย  พระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน เป้นต้น รอยพระพุทธบาทที่หมู่บ้านเมืองแปงนี้มีขนาดความกว้าง 67 ซม. ความยาว 107ซม. ค้นพบโดยพรานบุญที่อพยบมาจากถิ่นอื่น ได้มาล่าสัตว์ในแถบนั้น ได้เจอต้นม่ะม่วง ต้นหนึ่ง มีลักษณะลำต้นขาดกลางลำทั้งที่ต้นมะม่วงมีขนาดใหญ่มาก จึงแปลกใจโดยมีความเชื่อว่า เหมือนคนมาทำเครื่องหมายอะไรบางอย่าง พรานบุญจึงได้เดินดูโดยรอบจึงพบรอยพระพุทธบาทนี้ แล้วได้กลับไปบอกชาวบ้านมาดูแล้วชวนกันสร้างศาลาครอบไว้ โดยไม่มีหลักฐานพ.ศ.อ้างอิงถึงวันที่สร้างและมีการบูรณะมาตามลำดับ                              

 เมื่อพ.ศ.2517 - 2518 ได้บูรณะอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2550เกิดไฟไหม้ตัวอาคารทำให้ตัวอาคารทั้งหลังไหม้หมดเหมือนเป็นเหตุชี้ชัดซึ่งรอยพระพุทธบาทที่ซ่อนในเนื้อปูน ที่ชาวบ้านได้ตกแต่งไว้อย่างดี จนแทบไม่ปรากฎรอยเดิม จึงเป็นเหตุให้บุคคลถิ่นอื่นที่มาเที่ยวสงสัยเอาก้อนหินทุบขอบรอบๆ รอยพระพุทธบาทเสียหาย พอไฟไหม้ ปูนที่ฉาบรอบรอยพระพุทธบาทก็หลุดออกมา คงเหลือแต่รอยเดิมให้เห็นอย่างเด่นชัด ชาวบ้านจึงลงมติสร่างศาลาหลังใหม่ขึ้มาเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2551 ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6  แล้วเสร็จพร้อมฉลองเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2553 ที้แล้วมานี้

Back วัดเมืองแปง Next

Advertising Zone    Close